รีวิว!!!เปลี่ยนน้องให้ สวยขึ้น เป๊ะขึ้น แถมยัง รวยขึ้นด้วยค่ะ!!!

รีวิว!!!เปลี่ยนน้องให้ สวยขึ้น เป๊ะขึ้น แถมยัง รวยขึ้นด้วยค่ะ!!!

สวัสดีค่ะ

วันนี้นาเบลจะมาแชร์รีวิวน้องคนสวยนะคะ

 มาเปลี่ยนแปลงตัวเองให้สวยขึ้น ขาวขึ้น เป๊ะขึ้นค่ะ

น้องใหม่(นามสมมติ) มีความต้องการให้รูปหน้าเรียวสวย ได้สัดส่วนตามหลักโหงวเฮ้งที่ดค่ะ

ซึ่งโดยพื้นฐานเดิม หน้าของน้องสวยและค่อนข้างดีอยู่แล้ว จึงปรับแต่งเพิ่มไม่ยากนักค่ะ

นาเบลเริ่มแนะนำในการเปลี่ยนแปลงกับน้องใหม่ ดังนี้ค่ะ

1. เริ่มจากฉีด Botoxลดกราม 

-เพื่อปรับรูปหน้าให้เล็กลง โดยน้องมาฉีดลดกราม โดยผลที่ได้คือ กล้ามเนื้อกรามของน้องฝ่อและเล็กลง ซึ่งเดิมน้องไม่ค่อยมีปัญหาส่วนนี้มากนัก ซึ่งน้องใช้โบท็อกซ์ไปจำนวน50 ยูนิทค่ะ

2.ฉีดเมโสแฟตของCelluphase ลดไขมันที่แก้มค่ะ 

-เนื่องจากใบหน้าช่วงแก้ม คาง และเหนียง บางส่วนมีไขมันสะสม น้องเองก็ได้โดยฉีดทุก2สัปดาห์ค่ะ โดยใช้จำนวนครั้งละ 1-2 โดสค่ะ ทำประมาณ4ครั้งค่ะ หน้าเล็กลงชัดเจนค่ะ

3.ปรับโหงวเฮ้งเติม Filler หน้าผาก

-นาเบลได้แนะนำให้น้องปรับรูปหน้า โดยเฉพาะหน้าผากค่ะ ให้นูนโค้งได้สัดส่วน โดยทำการเติมฟิลเลอร์ที่หน้าผาก จำนวน 5ซีซี ค่ะ ทำให้รูปหน้าได้สัดส่วนตามหลักค่ะ สวย รับทรัพย์

4.สุดท้ายน้องได้บำรุงผิวให้ขาวใสขึ้น 

-บำรุงผิวให่ขาวใสขึ้นด้วยสูตรเฉพาะของทางนาเบลล่าค่ะ โดยทำต่อเนื่องสัปดาห์ละครั้ง โดยทำไป1เดือนก็เห็นความแตกต่างขึ้นมากค่ะ

น้องใหม่ ก็ได้รูปหน้าที่เรียว สวย แถมตามหลักโหงวเฮ้ง

ซึ่งน้องบอกว่า หลังจากทำแล้ว สวยขึ้น แถมยังรับทรัพย์มากขึ้น งานมีเข้ามามากขึ้นจริงๆค่ะ

ต้องขอบคุณในความพยายามและความไว้วางใจที่มีต่อนาเบลนะคะ

หวังว่าคงเป็นแนวทางให้เพื่อนๆที่ชื่นชอบนะคะ

ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรคอยติดตามกันนะคะ

ใครอยากปรึกษานาเบลก็

Line มานะค่ะ @nabellaclinic  ค่ะ

นาเบล

โบท็อกซ์ กับ เมโสแฟต ต่างกันยังไง???อยากหน้าเรียวฉีดอันไหนดี???

โบท็อกซ์ กับ เมโสแฟต ต่างกันยังไง???อยากหน้าเรียวฉีดอันไหนดี???

ช่วงหลังๆมานี้ นาเบลมักได้เจอคำถามที่ว่า 
⭐"อยากหน้าเล็ก เรียว จะฉีดโบท็อกซ์ หรือ เมโสแฟตดี???"⭐

แสดงว่าหลายคนคงยังไม่เข้าใจถึงคุณสมบัติ ของทั้ง2 อย่างนี้ ว่าทำงานต่าง หรือ เหมือนกัน อย่างไร

ก่อนอื่น เรามาดู คุณสมบัติหรือหลักการทำงานของ โบท็อกซ์ และ เมโสแฟต กันก่อนนะค่ะ

❤❤ คุณสมบัติและความหมายของ โบท็อกซ์ และ เมโสแฟต

❤❤โบท็อกซ์❤❤

คือ “Botulinum Toxin A” มีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดคลายตัวชั่วคราว ใช้เพื่อลดริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงอารมณ์เช่น การขมวดคิ้ว หรือรอยย่นจมูกที่เกิดจากการยิ้ม และใช้สำหรับฉีดปรับแก้ไขรูปหน้า ได้ผลดีสำหรับริ้วรอยที่ลึก เช่นการฉีดลดกล้ามเนื้อตรงส่วนกรามให้เล็กลงส่งผลให้หน้าดูเรียวขึ้น

❤❤เมโสแฟต❤❤

คือ การฉีดสลายไขมันส่วนเกิน โดยตัวยาจะประกอบไปด้วยตัวยา สารสกัดจากธรรมชาติ วิตามิน (แตกต่างกันไปในแต่ละคลินิก) และไปทำให้ผนังไขมัน แตกตัวออก ไขมันที่จับตัวอยู่เป็นก้อนแน่น จะสลายออกมาเป็นไขมันเหลวและถูกขับออกมาทางระบบน้ำเหลือง

❤❤ตำแหน่งที่ฉีดแก้ปัญหาของ โบท็อกซ์ และเมโสแฟต❤❤

โบท็อกซ์  ฉีดตรงไหนบ้าง

· หน้าผาก เพื่อแก้ไขรอยย่น

·ระหว่างคิ้ว

·ตีนกา

·ลดปีกจมูก

·หน้าเรียว ฉีดเพื่อปรับรูปหน้า และลด

·คอ เป็นการฉีดเพื่อลดรอยที่เป็นปล้องๆว

·รักแร้ ฝ่ามือ ฝ่าเท้า เป็นการฉีดเพื่อลดการทำงานของต่อม

· น่อง ฉีดเพื่อลดกล้ามเนื้อบริเวณน่องสำหรับ

Mesofat นิยมฉีดลดไขมันที่ใดบ้าง

• ลดไขมันที่แก้ม   ให้หน้าเรียวเล็ก

• ลดไขมันที่คาง(เหนียง)

• ลดไขมันที่ต้นแขน ต้นขา

• ลดไขมันที่พุง หน้าท้อง

• ลดไขมันที่น่อง

❤❤สรุปความต่างของ โบท็อกซ์ และ เมโสแฟต❤❤

⭐โบท็อกซ์ จะทำงานในส่วนที่เป็นกล้ามเนื้อ  โดยมากถ้าต้องการหน้าเรียวมักจะฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดกรามก่อนเป็นส่วนมาก

⭐ส่วน เมโสแฟต จะทำหน้าที่เกี่ยวกับการสลายไขมันที่สะสม ซึ่งส่วนมากมักมีไขมันสะสมที่แก้ม  ใบหน้า และเหนียง

❤❤ข้อแนะนำในการทำให้หน้าเล็ก เรียวขึ้น❤❤

⭐ถ้าต้องการให้หน้าเล็กและเรียว โดยมากแล้วมักจะฉีดโบท็อกซ์ และเมโสแฟตควบคู่กัน เพราะ ปัญหาของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับ กล้ามเนื้อกราม หรือ ไขมัน สิ่งไหนเป็นปัญหามากกว่ากัน

 ⭐โดยส่วนมากมักจะเริ่มจากกล้ามเนื้อกรามก่อนด้วยการฉีดโบท็อกซ์เพื่อคลายกล้ามเนื้อ ทำให้หน้าดูเล็กลง และ หลังจากนั้นจึงจะเมโสแฟตสลายไขมันบริเวณแก้มหรือใต้คางเพื่อช่วยให้หน้าดูเรียวและเล็กลงอีกค่ะ

⭐⭐สุดท้ายแล้วการที่จะทำให้หน้าเรียวและเล็กลง ควรจะปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญให้ดีก่อนจะได้แก้ปัญหาได้ถูกจุด

⭐⭐และสิ่งสำคัญต้องเลือก โบท็อกซ์ และเมโสแฟตที่ดี มีคุณภาพด้วยนะคะ 

ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรคอยติดตามกันนะคะ

ใครอยากปรึกษานาเบลก็

Line มานะค่ะ @nabellclinic ค่ะ

นาเบล

Stem Cell คืออะไร??? ฉีดเพื่อชะลอความชรา ผิวอ่อนเยาว์ !!!

 Stem Cell ฉีดเพื่อชะลอความชรา ผิวอ่อนเยาว์ !!!

ปัจจุบันจะได้ยินเรื่องการฉีดสเต็มเซลล์เพื่อความสวยงาม ให้เด็กขึ้นดูอ่อนเยาว์

นาเบลเลยแชร์ประสบการณ์และข้อมูลให้ทราบ

เซลล์ต้นกำเนิด หรือสเต็มเซลล์(Stem Cell)

 คือเซลล์ที่มีศักยภาพที่จะพัฒนาไปเป็นเซลล์ใหม่ เพื่อทดแทนเซลล์ในร่างกายที่เสื่อมสภาพ มีการศึกษาพบว่าคนที่เจ็บป่วยเป็นโรคเรื้อรังจะมีปริมาณเซลล์ต้นกำเนิดน้อยกว่าคนปกติ จึงเป็นที่มาของการศึกษาถึงการใช้เซลล์ต้นกำเนิดเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพ (regenerative medicine) ที่เรียกว่า Cell Therapy 

ในปัจจุบันมีแหล่งของ MSCs ที่เราอาจนำมาใช้ได้ มีอยู่หลายแห่งได้แก่ เลือดจากสายสะดือ (cord blood), สายสะดือ (umbilical cord), รก (placenta), เซลล์ไขมันและกระแสโลหิต(peripheral blood)

ข้อดีอีกประการของการใช้ MSCs คือ สามารถนำมาให้ข้ามคนได้ (allogeneic transplantation)

สเต็มเซลล์กับความงาม

การนำสเต็มเซลล์มาใช้ในการเสริมความงามเพื่อรักษาผิวพรรณ 

โดยใช้ในรูปแบบการฉีดและเครื่องสำอาง

 ซึ่งสเต็มเซลล์ส่วนที่นำมาใช้เพื่อความงามนั้นจะเป็นสเต็มเซลล์จากสายสะดือเป็นส่วนใหญ่

 เนื่องจาก ร่างกายของคนเราจะผลิตสเต็มเซลล์ได้ในปริมาณที่น้อย ในการที่จะนำสเต็มเซลล์มาใช้นั้น จะต้องมีการกระตุ้นให้เกิดเซลล์จำนวนมากขึ้น หรือการเจาะเลือดเพื่อนำสเต็มเซลล์ไปทำการเพาะเลี้ยงให้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น สามารถดูดเลือดออกมาผสมกับการกระตุ้น หรือที่เรียกว่า Growth Factor ที่บางชนิดจะมีการฉีดกลับไปบนผิวหนัง

 ซึ่งสเต็มเซลล์จะทำหน้าที่

-ช่วยในการกระตุ้นคอลลาเจน

-ช่วยฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ

-ผิวพรรณดูเปล่งปลั่ง และทำให้เซลล์ผิวโดยรวมดูอ่อนเยาว์อย่างเห็นได้ชัดเจน

ตำแหน่งที่ฉีดในด้านความงาม

1.ฉีดเข้าชั้นผิวหน้า Intradermal injection (ID)

เพื่อลดริ้วรอย, ร่องลึกต่างๆ ช่วยให้ผิวหน้าเต่งตึง เรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ผิวกระจ่างใส เปล่งปลั่ง มีออร่าอย่างเห็นได้ชัด เช่น หน้า คอ ร่องแก้ม ร่องใต้ตา หน้าผาก แก้ม เป็นต้น

จำนวนเซลล์ เริ่มต้น     

2-3 ล้านเซลล์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าและการประเมินของแพทย์

2.ฉีดเข้าชั้นกล้ามเนื้อ Intramuscular injection (IM)

เพื่อฟื้นฟูและเสริมสร้างเซลล์ผิวพรรณให้กระชับ เต่งตึง ปรับสมดุลผิวเพื่อความขาวกระจ่างใส เปล่งเปลั่ง แข็งแรงอ่อนเยาว์ มีน้ำมีนวล ลบริ้วรอย ผิวพรรณเรียบเนียนทั่วเรือนร่าง และยังสามารถป้องกันโรคภูมิแพ้, ผื่นแพ้ ต่างๆ ของร่างกาย(Autoimmune disease)

 

จำนวนเซลล์ เริ่มต้น

5 ล้านเซลล์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและการประเมินของแพทย์

การเตรียมร่างกายก่อนการฉีด

1. เพื่อสุขภาพของเซลล์ที่ดี มีคุณภาพ ผู้รับเซลล์ร่างกายจะต้องอยู่ในสภาวะที่สมบูรณ์ สามารถบำรุงโดยให้วิตามินเสริมก่อนนอนและระหว่างวันได้

2. ควรหลีกเลี่ยงยาประเภทกดภูมิต้านทาน เช่น Steroid, กลุ่ม Cytoxic เช่นยาเคมีบำบัดที่ไม่เจาะจง

3. หากมีอาการเจ็บป่วยจากการติดเชื้อ เช่น เป็นหวัด, วัณโรค, ทางเดินปัสสาวะ ควรเลื่อนการรับเซลล์ ไปก่อน

4.หากมีบาดแผลเฉียบพลัน เช่น แผลที่เกิดจากของมีคม ข้อเท้าแพลง ควรรอจนกว่าบาดแพลและอาการหายเป็นปกติ

วิธีปฏิบัติหลังการทำ Systemic Treatment ด้วย Cell

1. ให้ผู้รับเซลล์พักผ่อนให้เพียงพอหลังวันรับเซลล์ อย่างน้อย 1 สัปดาห์

2.งดการทำกิจกรรมหนักใดๆ ที่เสี่ยงต่อการเกิดกล้ามเนื้ออักเสบอย่างน้อย 8 ชั่วโมง โดยเฉพาะการให้เซลล์ ทางหลอดเลือดดำ(IV)เนื่องจากเซลล์ส่วนใหญ่จะไปอยู่ที่ปอดหลังจากฉีด

3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และ ยาสูบ

4. งดการทำ Chelation อย่างน้อย 1 สัปดาห์

5. งดการทำ Treatment ที่จะก่อให้เกิดการอักเสบรุนแรง อย่างน้อย 2 สัปดาห์

ผลของนาเบลจากการลองฉีด 

สิ่งที่รับรู้ได้คือ แผลต่างๆในร่างกายหายเร็วขึ้น และหน้าจะดูเปล่งปลั่งขึ้นค่ะ

โดยส่วนตัว ชอบค่ะ

***การฉีดสเต็มเซลล์ต้องบอกก่อนว่าในไทยยังไม่ได้รับการรับรอง ดังนั้นถ้าใครคิดจะฉีดก็ศึกษาและปรึกษาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญกันนะค่ะ

นาเบลนำประสบการณ์มาแชร์ค่ะ 

ครั้งหน้าจะเป็นเรื่องอะไรคอยติดตามกันนะคะ

ใครอยากปรึกษานาเบลก็

Line มานะค่ะnabelltikky ค่ะ

นาเบล